วิธีแก้ปัญหานอนไม่หลับ(Cure sleep insomnia and sleep problems)

ไม่อยากดูแก่ไปกว่าวัย แต่ทั้งนี้ก็เป็นคนที่หลับได้อยากเสียเหลือเกิน ครั้นจะพึ่งยานอนหลับก็คงจะไม่ดีสักเท่าไร ถูกต้องแล้วล่ะ ที่คุณไม่คิดใช้ยานอนหลับเป็นทางออกของการแก้ปัญหา เพราะยานอนหลับทุกชนิดถือว่าเป็นยาเสพติด ถ้าคุณใช้มันอยู่บ่อยๆ คุณก็จะติดและไม่สามารถนอนหลับได้เองอีกเลย เมื่อเป็นคนที่หลับยาก ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอันใดก็ตาม คุณลองเตรียมตัวก่อนนอนทุกๆ คืนด้วยวิธีการเหล่านี้ดูสิ

1.ดื่มนมอุ่นๆ สักแก้ว หรือกล้วยสัก 1 ผล
2.สวมใส่เสื้อผ้าที่หลวมสบาย หรือเป็นไปได้ก็ไม่ต้องสวมอะไรเลย
3.ผ่อนคลายร่างกายสบายๆ กับอากาศที่ถ่ายเท แสงที่มืดและเสียงที่ไม่เป็นมลพิษ
4.นวดหน้าอย่างเบามือไปพลางๆ พร้อมกับปล่อยใจปล่อยสมองให้โล่งไม่ต้องคิดอะไร

เชื่อว่าขั้นตอนดังกล่าวนี้น่าจะทำให้คุณหลับได้สนิทง่ายมากขึ้น แต่ถ้ายังไม่สามารถแก้ปัญหานอนไม่หลับได้อีก นั่นก็หมายถึงว่าร่างกายของคุณยังไม่พร้อมที่จะหลับ ฉะนั้นก็ลุกขึ้นมาทำอะไรที่ค้างคาให้เสร็จๆ ไป ถ้าเหนื่อยและเพลียเมื่อใดร่างกายก็คงต้องการจะพักผ่อนไปเองโดยอัตโนมัติ

การเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า(How To Choose A Facial Cleanser)

หยุด...และคิดเสียใหม่นะ ถ้าคุณก้าวเข้าสู่เลข 3 แล้วยังใช้สบู่ธรรมดาๆ ล้างทำความสะอาดผิวหน้าอยู่ ผิวของคุณๆ เลข 3 มักจะมีน้ำมันตามธรรมชาติเพื่อความชุ่มชื้นของผิวหน้าน้อยอยู่แล้ว การใช้สบู่ล้างหน้าเป็นการทำให้ผิวแห้งหนักเพิ่มขึ้นเข้าไปอีก และเมื่อผิวแห้งตามธรรมชาติด้วยวัยผนวกกับสบู่ที่ทำให้ผิวแห้งมาก ก็จะทำให้ริ้วรอยผุดขึ้นได้ง่าย รวดเร็ว และชัดเจนเป็นที่สุด ฉะนั้นแล้วผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าของคุณๆ นั้นก็ควรจะเป็นคลีนเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้น และสามารถทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกโดยไม่ทำลายน้ำมันตามธรรมชาติแต่อย่างใด

การปกปิดริ้วรอยเมื่อเข้าสู่เลข3(Hide the wrinkles)

เปิดประตูก้าวเข้าสู่เลข 3 ริ้วรอยก็เริ่มเข้ามาแบบไม่ได้รับเชิญ โดยเฉพาะบริเวณแก้มและรอบดวงตาที่มักจะปรากฏริ้วรอยให้เห็นเป็นส่วนแรก สาเหตุที่มีริ้วรอยให้เห็นในช่วงนี้ก็เป็นเพราะอีลาสตินที่คอยยืดหยุ่นทำให้ผิวเต่งตึงนั้นเริ่มลดลง และจะยิ่งน้อยลงไปอีกถ้าให้ผิวเผชิญกับควันบุหรี่และแสงแดดอยู่เป็นประจำการปกปิด ริ้วรอยอันไม่พึงที่เกิดขึ้นนี้ แบบเฉพาะหน้าและได้ผลในการลดริ้วรอยให้จางลงอ่อนวัยลงในระยะยาว ก็สามารถทำได้โดยใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบในการเสริมสร้างคอลลาเจนตกแต่งดูแลผิวหน้าเป็นประจำ

เทคนิคการแต่งหน้าให้ดูอ่อนวัย(How to Look Younger with Makeup)

หากจะแต่งหน้าเสริมสวยให้ดูอ่อนวัยกันทั้งที ก็ควรจะทราบเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เอาไว้

1.อย่าใช้รองพื้นโปะกับแป้งฝุ่นให้หนามากเกินไปในส่วนที่ต้องการปกปิดริ้วรอยบนใบหน้า เพราะแทนที่จะทำให้รองพื้นทำหน้าที่ช่วยปกปิดริ้วรอยลดวัย แต่กลับจะไปเน้นให้เห็นชัดขึ้นมากกว่า

2.ส่องกระจกดูใบหน้าเปลือยๆ ในที่ที่มีแสงสว่างชัดเจนเพื่อดูถึงสีผิวที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งคุณจะพบว่าใบหน้าของคนเรามีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอกัน ตรงไหนที่ดูคล้ำ ก็ให้ใช้รองพื้นเกลี่ยเพิ่มความสว่างให้กับใบหน้า

เคล็ดลับบำรุงผิวก่อนแต่งหน้า(skin care before applying make-up)

สาวๆ หลายคนที่จำเป็นต้องแต่งหน้าทุกๆ วัน นอกจากจะดูแลผิวหน้าด้วยการรักษาความสะอาดทุกครั้งหลังการแต่งหน้าอย่างหมดจดแล้ว เพื่อเป็นเกราะป้องกันผิวหน้าก่อนจะต้องปะทะกับสารเคมีจากเครื่องสำอางตลอดทั้งวัน ทุกๆ ครั้งก่อนแต่งหน้า ให้คุณชโลมครีมบำรุงผิวหรือน้ำมันประเภทวิตามิน E เคลือบที่ผิวหน้าให้ทั่ว พร้อมกับใช้นิ้วนวดเบาๆ วนเป็นวงกลมให้ทั่วนานประมาณ 5 นาที เพื่อครีมหรือน้ำมันจะได้ซึมซาบเข้าสู่ผิวชั้นลึกได้ เป็นการคงความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า จากนั้นก็ใช้ฟองน้ำซับเอาส่วนที่มันเยิ้มเกินออกมาอย่างเบามือ ก่อนลงท้ายด้วยการละเลงเครื่องสำอางบนใบหน้า

บำรุงผิวด้วยการกิน(Eat For Glowing Healthy Skin)

ผิวไม่แก่และร่วงโรยลงไปได้อย่างง่ายดาย ถ้าคุณเลือกที่จะดูแลอาหารการกินของคุณให้มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการเพื่อความงามที่จะได้จากภายในสู่ภายนอก ข้าวกล้อง เนื้อปลา เมล็ดธัญพืชและผักผลไม้สด คือหลักๆ ที่คุณควรต้องกินเป็นประจำทุกวัน นอกเหนือไปจากนี้ก็คือการดื่มกาแฟให้น้อยลง หรือเปลี่ยนมาดื่มน้ำสะอาดแทนดีกว่า

วิธีขัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพด้วย AHA หรือ BHA(BHA's & AHA's)

การปล่อยให้เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพคงอยู่โดยไม่ขจัดออกไปให้สิ้นซาก จะทำให้ผิวของคุณดูหมองดูโทรมโดยใช่เหตุให้เวลาสัปดาห์ละครั้งกำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้ลอกออกไปอย่างอ่อนนุ่ม และ อ่อนโยน โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่มี AHA หรือ BHA ขัดอย่างเบามือ ด้วยคุณสมบัติของ AHA และ BHA จะทำให้เซลล์ผิวที่เสื่อมหลุดออกและเผยผิวใหม่อย่างง่ายดาย

แต่งหน้าอ่อนๆ ก็สวยใสได้แล้ว (smooth makeup)

ในยุคสมัยที่อะไรๆ ก็เน้นความเป็นธรรมชาติ ความสวยแบบธรรมชาติก็คือ ความงามที่ดูดีที่สุด แต่ในสมัยวัยที่เพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ ครั้นจะให้งานสดใสก็คงจะดูไม่เต็มร้อยสักเท่าไร อย่างนั้นก็คงต้องใช้ make-up เข้ามาช่วยเติมให้เต็มร้อยแล้วล่ะ การจะแต่งหน้าเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติและลดวัยไปในตัวด้วยนั้นให้เลือกโทนสีที่อ่อนๆ แล้วยึดหลักที่ว่าแต่งบางๆ ใช้เบาๆ ก็สวยใสได้แล้ว จากนั้นเสริมความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าด้วยการใช้ลิปกลอสแต้มริมฝีปาก

การดูแลผิวเท้า(foot skin care)

เท้าเป็นศูนย์กลางของจุดประสาทหลายๆ จุดทั่วร่างกาย ซึ้งถ้าหากว่าเท้าของคุณไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอก็จะส่งผลถึงความไม่สดใส สดชื่น และอาจจะดูร่วงโรยไปได้เช่นกันทุกๆ ครั้งที่อาบน้ำ คุณควรที่จะมีหินขัดเท้าอยู่ในห้องน้ำเสมอ เพื่อเอาไว้ขัดเท้าให้นุ่มเนียน โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นตาปลา หรือบริเวณที่มีหนังแข็งกระด้างให้อ่อนนุ่มนอกจากนั้นคุณยังสามารถผ่อนคลายความเมื่อยล้า ที่เท้านั่งรับบทหนักมาทั้งวันได้ด้วยการแช่น้ำอุ่นผสมเกลือนานสัก 10-15นาทีแล้วต่อด้วยแช่ลงในน้ำเย็นอีก 1-2 นาที คุณจะรู้สึกผ่อนคลายทีเดียว ซึ่งยิ่งถ้าคุณทำบ่อยๆ ผิวเท้าเหี่ยวๆ จะหาทางมาเยือนคุณไม่พบอย่างแน่นอน

ถนอมผิวมือให้ดูนุ่มเนียนน่าสัมผัส(Hand Skin Care)

ถนอมผิวมือให้ดูนุ่มเนียนน่าสัมผัส และดูไร้ริ้วรอยอยู่คู่กับคุณไปได้อย่างยาวนาน ทุกๆ วันให้คุณบำรุงดูแลผิวมือของคุณตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1.ทุกๆ ครั้งเวลาอาบน้ำ ให้ใช้แปรงสำหรับขัดมือ ขัดเล็บ ขัดทำความสะอาด และเป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ให้ลุดลอกออกไปได้อีกด้วย
2.หมั่นทาครีมบำรุงผิวมือทุกครั้งหลักจากการล้างมือ หรือเวลาที่รู้สึกว่าผิวมือนั้นแห้งหยาบ โดยการเลือกใช้โลชั่นที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ และ SPF ป้องกันแสงแดดไม่ต่ำหว่า 15
นอกจากการดูแลผิวมือเช่นนี้เป็นประจำทุกๆ วันแล้ว อย่างน้อย 1 วันใน 1 สัปดาห์ ก็บำรุงผิวมือด้วยสูตรธรรมชาติง่ายๆ โดยการนำถั่วอัลมอนด์บดผสมกับมะนาวและน้ำผึ้ง นวดมือให้ทั่วประมาณ 5-10นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

วิธีดูแลผิวหน้าเมื่ออายุย่างเข้าสู่ 30(Skin Care at 30)

เมื่ออายุย่างเข้าสู่ 30 แน่นอนว่าลักษณะของผิวที่เคยดูเต่งตึง สดใส ไม่หย่อนยาน ก็จะเริ่มเปลี่ยนไป และเป็น ไปในลักษณะที่หลายๆคนคงไม่ชอบใจสักเท่าไร สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นด้วยเรื่องของฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง ที่เข้าไปทำให้การผลิตน้ำมันเพื่อความชุ่มชื้นของผิวตามธรรมชาตินั้นลดลง วิธีการดูแลผิวให้ยังคงไม่เกินวัย ในระยะนี้คงต้องอาศัยมอยส์เจอไรเซอร์ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวมากเป็นพิเศษแต่ทั้งนี่ก็ไม่ควรเลือก ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีมอยเจอไรเซอร์ หนักมากเกินไปเพราะจะทำให้ไปอุดตันรูขุมขน สร้างความสกปรกให้กับผิวหน้าคุณเปล่าๆ

ดูแลบำรุงผิวด้วยครีม (Skin Cream - Facial Cream)

ดูแลบำรุงผิวด้วยครีม (Skin Cream - Facial Cream)

ไม่อยากเป็นคนหนึ่งที่ถูกทักว่าผิวแห้งกร้าน หรือดูแก่เกินอายุจริง ก็ควรที่จะไม่ขี้เกียจดูแลบำรุงผิวด้วยครีม หรือโลชั่นที่เหมาะกับประเภทผิวของคุณเป็นประจำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ และนอกจากนั้นก็ไม่ควรที่จะละ เลย การทาครีมกันแดดที่มี SAF ไม่ต่ำกว่า 15ควบคู่ไปด้วย

ทำสครับหรือขัดผิว(Scrubs)

อยากรู้มั้ยว่า ทำไมสาวกลางคนหลายๆ คนถึงได้หน้าใสกันนัก เขาไปทำอะไรกันมาหรือ? ก็คงต้องมีบ้างล่ะที่อาศัยฝีมือของแพทย์ แต่แน่นอนว่า 1 ในเคล็ดลับของสาวหน้าใสทั้งหลาย ต้องทำ Scrubs กันเป็นประจำสัปดาห์ละ 1ครั้ง การทำ Scrubs ก็คือการขัดผิว ที่จะทำให้เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วหลุดลอกออกไป ขัดคราบเครื่องสำอางที่ฝังลึก แล้วเผยผิวใหม่ที่เต่งตึงเนืยนนุ่มออกมาแทนที่ การจะทำScrubsผิวนั้นก็ไม่ยากเลย เพียงใช้ Facial Scrubsที่เหมาะกับผิวคุณมาขัดถูเบาๆ ให้ทั่วผิวหน้านานประมาณ 1นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ล้างเครื่องสำอางก่อนนอนเป็นประจำ(Cleaning Makeup and Cosmetics)

ง่วงล่ะสิ! เหนื่อยล่ะสิ! แต่อย่าลืมก่อนเข้านอนทุกค่ำคืนไม่ว่าคุณเหนื่อยล้ามามากแค่ไหนก็ตามคุณควรต้องล้างทำความสะอาดผิวหน้าทุกๆ ครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่มีเครื่องสำอางเป็นเกราะของผิวหน้ามาตลอดทั้งวัน การปล่อยให้เครื่องสำอางค้างไว้จะทำให้สารเคมีของเครื่องสำอางไปอุดตันอยู่ตามรูขุมขน นอกจากการความสกปรกจะถามหาแล้ว เรื่องของริ้วรอยก็ไม่น้อยหน้าเช่นกันสละเวลาสักเล็กน้อยเพื่อความงามไปตลอดกาล ให้คุณลบเครื่องสำอางออกด้วยการใช้ครีมลบเครื่องสำอางแต้มให้ทั่วใบหน้า แล้วใช้นิ้วนวดเบาๆ จากนั้นทิ้งไว้สักพัก จึงใช้สำลีเช็ดออกแล้วล้างหน้าให้หมดจด เชื่อว่าไม่น่าเกิน 10-15 นาทีหรอก อย่าขึ้เกียจล่ะ

ผิวแห้งกับริ้วรอยเหี่ยวย่อน(Dry Skin And Wrinkles)

ผู้หญิงสมัยใหม่มักทำแต่งานจนลืมเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหลายๆคนจึงประสบปัญหาผิวแห้ง สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งนั้น ควรต้องได้รับการดูแลบำรุงผิวมากกว่าผู้ที่มีผิวแบบอื่นๆ ให้มากเป็นพิเศษ ถ้าคุณอยากจะยื้ออายุความอ่อนเยาว์ให้อยู่ไปได้นานๆเนื่องจากผิวแห้งนั้นมีความตื่นตัวสูงกับการแสดงอารมณ์ความรู้สึกออก มาทาง สีหน้า ไม่ว่าคุณจะยิ้ม หัวเราะ โกรธ หรือแม้แต่การกินอาหาร การเคลื่อนไหวต่างๆ บนใบหน้า จะทำให้เกิดริ้วรอยที่ชัดเจนได้ง่ายมากกว่าผิวชนิดอื่น คนที่มีผิวแห้งจึงมักจะประสบกับริ้วรอยเหี่ยวย่นได้รวดเร็วกว่าคนที่มีผิวแบบอื่นการดูแลบำรุงผิวแห้งไม่ให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้ง่ายๆ ทำให้ดูแก่เกินวัย สามารถแก้ไขได้โดยตรงที่ต้นเหตุ ซึ่งก็คือ การดูแลเรื่องของอาหารการกินให้มีประโยชน์ รวมทั้งควรพาตัวเองให้อยู่ในที่ที่มีการระบายอากาศที่ดีอยู่เสมอ นอกจากนั้น ก็ควรบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ด้วยการชโลมโลชั่นที่มีมอยส์เจอไรเซอร์สูงเป็นประจำ อ๋อ อย่าลืมดื่มน้ำอย่างน้อย 6-8 แก้วด้วยล่ะ

นั่งเท้าคางที่มาของริ้วรอยก่อนวัย(Cause and Treatment of Wrinkles)

ถึงแม้ว่าริ้วรอยอันไม่พึงประสงค์จะเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ทุกๆ คนแต่การชะลอหรือยับยั้งไม่ให้เกิดขึ้นก่อนเวลาที่มันสมควรจะเป็นก็น่าจะดีไม่ใช่หรือเพื่อริ้วรอยย่นๆบนใบหน้าจะไม่เกิดขึ้นก่อนแก่อิริยาบถประเภทนั่งเท้าคางก็ควรเป็นท่าทางที่ควรจะลดละเลิกปฏิบัติอย่างที่สุด ก็เพราะว่าการนั่งเท้าคางน่ะทำให้เกิดการกดทับขึ้นบนผิวหน้าซึ่งถ้าทำบ่อยๆและซ้ำๆ กันเป็นประจำริ้วรอยก็จะปรากฎให้เห็นเด่นชัดขึ้นอย่าง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าคุณรู้สึกว่าเมื่อยคอจนอยากนั่งเท้าคางทุกๆ ครั้งถ้าเป็นไปได้ ให้ผ่อนคลายด้วยการนอนราบสักพักหนึ่งจะดีกว่า

ชะลอผมขาวด้วย วิตามินบี (vitamin B)

ไม่อยากปกปิดผมขาวด้วยการทำสี เพราะกลัวว่าผมจะเสียและหลุดร่วงได้ง่ายการที่ผมขาวผมหงอกเกิดขึ้น คงจะเป็นเรื่องธรรมชาติของวัยที่ไม่อาจจะฝืนได้ แต่การจะชะลอไม่ให้ผมหงอกแสดงตัวก่อนวัยอันควร ก็ยังพอที่จะทำได้ ด้วยการกินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน B อย่างถั่งลิสงเป็นประจำ

เพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวหน้า(Increasing Collagen In Your Facial Skin)

อีกหนึ่งเคล็ดลับกับการถนอมผิวหน้าให้ดูสดใสไร้ริ้วรอยเพียงคุณนำใบบัวบกมาปั่นกรองเอาแต่น้ำ จากนั้นให้นำใบบัวบกที่ได้มาทาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซึ่งคุณควรบำรุงผิวหน้าด้วยวิธีนี้ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะใบบัวบกเป็นพืชตามธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการช่วยการตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมา เพื่อช่วยชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่นได้เป็นอย่างดี

น้ำผึ้งเสริมความงาม(Benefits of Honey for Skin)

คุณๆ ควรมีน้ำผึ้งแท้ๆ ติดบ้านไว้นะ นอกจากจะใช้เพิ่มความหวานให้กับอาหารและเครื่องดื่มแล้ว สุขภาพที่ดีผนวกกับความงามแบบธรรมชาติ จะวิ่งเข้าชนจนคุณตั้งรับแทบไม่ทันเลยล่ะเปลี่ยนจากการกินน้ำผึ้งมาเป็นใช้น้ำผึ้งเสริมความงามกันบ้างดีกว่า โดยเฉพาะถ้าคุณมีปัญหาแก้ไม่ตกกับรอยคล้ำบริเวณใต้ตาเพียงคุณผสมน้ำผึ้ง 1ช้อนชา ลงในน้ำอุ่นครึ่งแก้ว แล้วนำมาทาในจุดที่ต้องการแก้ไขทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ซึ่งควรทำเป็นประจำเพื่อผิวรอบดวงตาที่จะนุ่มเนียนและสดใสขึ้น

ผิวหน้าสวยด้วยน้ำมะขามเปียก(Tamarind is quite easy to maintain a healthy face skin)

สูตรมะขามเปียกนี้ เชื่อว่าคงได้ยินมาตั้งแต่โบร่ำโบราณกันแล้วถ้าสรรพคุณไม่ดีเยี่ยมจริงๆคงเลือนหายไปตั้งแต่อดีตกาลแล้วว่าไหม
ก่อนจะใช้น้ำมะขามเปียกนวดผิวหน้า ให้ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำสะอาดกับสบู่ล้างหน้าก่อน จากนั้นจึงใชัน้ำมะขามเปียกนวดเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า แล้วพอกหน้าทิ้งไว้อย่างนั้นนาน 5นาที จึงล้างออกให้สะอาดใช้สูตรนี้ให้บ่อยๆ รับรองผิวใสกิ๊ก เด้ง เต่งตึงจนสาวๆ บางคนต้องหลีกทางให้กันเลยล่ะ