เชื้อราที่เล็บ(Nail Fungus) |
ต่อไปนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ของเชื้อราเล็บ :
1.การไหลเวียนโลหิตไม่ดี
2.การเติบโตของเล็บช้า
3.มีประวัติการติดเชื้อราในครอบครัว
4.เหงื่อเข้มข้น
5.ทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อับชื้น
6.สวมถุงเท้าและรองเท้าที่อับ
7.เดินเท้าเปล่าในสถานที่เช่น : สระว่ายน้ำ, โรงยิมและห้องอาบน้ำ
8.มีการติดเชื้อก่อนหน้านี้หรือการบาดเจ็บที่เล็บ
9.เป็นโรคเบาหวาน, เอดส์, หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
10.สวมรองเท้าที่คับเกินไป
อะไรคือสาเหตุของเชื้อราที่เล็บ
โรคเชื้อราที่เล็บคือการติดเชื้อที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมากที่อยู่รอดได้โดยแสงเรียกว่าเชื้อรา ชนิดของเชื้อราที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อจากเชื้อราที่เล็บเรียกว่า dermatophytes
จากการส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์พบว่าโรคเชื้อราที่เล็บจะเกิดการติดเชื้อผ่านแผลขนาดเล็กในผิวหนังหรือยังอยู่ในรอยแยกระหว่างเล็บ การติดเชื้อจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและชื้น
ส่วนเหตุผลว่าทำไมมันเป็นเรื่องปกติมากที่จะได้รับ เชื้อราที่เล็บ เป็นเพราะพวกมันจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มืดที่อบอุ่นและชื้นภายในถุงเท้าและรองเท้าและเป็นจุดที่การไหลเวียนของเลือดไม่ดีจึงเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับต้นๆของโรคเชื้อราที่เล็บ;ด้วยเหตุนี้เราจึงพบว่าการติดเชื้อราที่เล็บเท้าจึงเกิดขึ้นง่ายที่สุด
การรักษาโรคเชื้อราที่เล็บมีทั้งการทานยาแบบเม็ดและการทาด้วยครีมที่มีส่วนผสมของ Funginix เนื่องจากมีส่วนผสมจากธรรมชาติและไม่เพียง แต่การรักษาการติดเชื้ออย่างเดียวแต่เมื่อใช้เป็นเวลาหกเดือนก็ยังจะป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นได้อีกด้วย แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงดังที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเอง
ส่วนเหตุผลว่าทำไมมันเป็นเรื่องปกติมากที่จะได้รับ เชื้อราที่เล็บ เป็นเพราะพวกมันจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มืดที่อบอุ่นและชื้นภายในถุงเท้าและรองเท้าและเป็นจุดที่การไหลเวียนของเลือดไม่ดีจึงเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับต้นๆของโรคเชื้อราที่เล็บ;ด้วยเหตุนี้เราจึงพบว่าการติดเชื้อราที่เล็บเท้าจึงเกิดขึ้นง่ายที่สุด
การรักษาโรคเชื้อราที่เล็บมีทั้งการทานยาแบบเม็ดและการทาด้วยครีมที่มีส่วนผสมของ Funginix เนื่องจากมีส่วนผสมจากธรรมชาติและไม่เพียง แต่การรักษาการติดเชื้ออย่างเดียวแต่เมื่อใช้เป็นเวลาหกเดือนก็ยังจะป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นได้อีกด้วย แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงดังที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเอง
0 comments:
แสดงความคิดเห็น